ปัจจัยที่ก่อให้เกิดภาวะผู้นำ มี ตัวผู้นำ ผู้ตาม สถานการณ์ ซึ่งได้พูดถึง "ผู้ตาม (Followers)" เมื่อวาน…วันนี้จะพูดถึง ตัวผู้นำ และ สถานการณ์ที่ก่อให้เกิดภาวะผู้นำ
++ ผู้นำ (Leader): ผู้ที่ชักจูง/ชี้นำผู้อื่นให้ปฏิบัติงานสำเร็จตามวัตถุประสงค์
++ ภาวะผู้นำ (Leadership) :ศิลปะ/กระบวนการใช้อิทธิพลต่อผู้อื่นให้มีความเต็มใจและกระตือรือร้นในการปฏิบัติงานสัมฤทธิ์ผล
++ ภาวะผู้นำ (Leadership) :ศิลปะ/กระบวนการใช้อิทธิพลต่อผู้อื่นให้มีความเต็มใจและกระตือรือร้นในการปฏิบัติงานสัมฤทธิ์ผล
...ผลงานจะบรรลุตามเป้าหมายได้นั้น "ผู้นำ" จะต้องเข้าใจคุณลักษณะของ"ผู้ตาม (Followers)" และ เลือกใช้วิธีการสั่งการให้เหมาะสมกับสถานการณ์และคุณลักษณะของผู้ตามหรือลูกน้อง แบ่งเป็น 4 แบบ คือ
++ S1 Telling (การสั่งการ) หรือ Directing ชี้แจงกระบวนการทำงานอย่างละเอียด ทำอะไร อย่างไร ที่ไหน เมื่อไร ฯลฯ และติดตามการทำงานอย่างใกล้ชิด ผู้นำที่แสดงบทบาทในสถานการณ์นี้ “ผู้นำแบบโค้ช หรือ พระพี่เลี้ยง
++ S2 Selling (การขายความคิด) หรือ Coaching ให้คำแนะนำ ให้กำลังใจ จูงใจ ไม่ต้องจู้จี้ติดตามงาน ผู้นำที่แสดงบทบาทในสถานการณ์นี้ “ผู้นำแบบกำกับดูแล”
++ S3 Participating (ให้มีส่วนร่วม) หรือ Support ใช้การสื่อสารสองทางเพื่อให้ใช้ความสามารถที่มีอยู่ ไม่ออกคำสั่ง ผู้นำที่แสดงบทบาทในสถานการณ์นี้“ผู้นำแบบสนับสนุน”
++ S4 Delegating (การมอบหมาย) ไว้ใจให้ตัดสินใจว่าจะปฏิบัติอย่างไร เมื่อไร และที่ไหนเอง ผู้นำที่แสดงบทบาทในสถานการณ์นี้“ผู้นำแบบมอบหมายงาน”
**ตัวอย่าง...สมมติ**
พี่มีเพื่อนจะมากินมื้อเช้า 8 โมงพรุ่งนี้ เพื่อนขอให้จัดข้าวต้มกุ๊ย ไข่เจียวหมูสับ ยำกุ้งแห้ง กระเทียมดอง ถั่วลิสงทอด ...พี่สั่งสาวใช้แบบมอบหมายงาน(S4) คือ บอกแค่แขกมากี่คน กี่โมง และ รายการอาหาร
(-๐-) ถ้าสาวใช้เป็นคนกลุ่ม R1 (บัวใต้น้ำ) เชื่อขนมลิงกินได้...พวกเราอดกินข้าวต้มแน่ๆ
ในสถานการณ์เช่นนี้ ถ้าเปลี่ยนมาใช้วิธี S1(Telling) ในการสั่งการ อธิบายรายละเอียดเริ่มตั้งแต่ ใช้ไข่กี่ฟอง หั่นหอมใหญ่? สับหมู? ตีไข่ให้ฟู? ตั้งกระทะให้ร้อน?่ ฯลฯุ และก่อนเวลา 8 โมงเช้า พี่ควรต้องลงมาตรวจสอบความพร้อมอีกครั้งว่าสาวใช้ของพี่ทำงานตามขั้นตอน-รายละเอียดที่บอกทั้งหมดไหม ...แบบนี้พี่ได้กินข้าวต้มกุ๊ยและกับข้าวตามที่ต้องการ
(*๐*)ถ้าสาวใช้เป็นคนกลุ่ม R2( บัวกลางน้ำ) ซึ่งไม่มีประสบการณ์เช่นเดียวกัน แต่มีความเต็มใจ พี่ควรใช้วิธี S2 (Selling หรือ Coaching) คือ อธิบายขั้นตอนและ คอยให้คำแนะนำเพิ่มเติม...พี่ก็ได้กินข้าวตัมกุ๊ย สมใจแล้ว
(+๐+) ถ้าสาวใช้เป็นคนกลุ่ม R3 (บัวปริ่มน้ำ) คือ มีความสามารถ มีความคิดของตัวเอง แต่ไม่เต็มใจทำตามพี่ทุกเรื่อง เขาอาจจะมีคำถามพี่ ว่าทำไมไม่ใช้ไข่เค็มแทน ไข่เจียวหมูสับ อร่อยและเป็นกับข้าวของข้าวต้มกุ๊ยเหมือนกัน ง่ายและไม่ยุ่งยากในการเตรียมด้วย ซึ่งก็จริง...แต่ถ้าพี่บอกเธอว่า..แขกไม่กินไข่เค็ม..เธอจะเข้าใจและจัดการทำไข่เจียวหมูสับให้เอง เป็นการสื่อสารสองทางให้เขามีส่วนร่วม หรือ Participating ในการทำงาน
(^๐^) ถ้าสาวใช้เป็นคนกลุ่ม R4 (บัวพ้นน้ำ) เป็นกลุ่มคนที่นับได้ว่าเป็นผู้ตาม (Follower) ในฝันที่ผู้นำโหยหาก็ว่าได้...มีความสามารถ มีความคิดของตัวเอง และเต็มใจปฏิบัติตามสูง
+++++ผู้ตาม (Followers) คนทั้ง 4 กลุ่ม ที่กล่าวมานี้ สามารถปฏิบัติงานให้บรรลุตามเป้าหมายที่กำหนดได้ ถ้าผู้นำ (Leadership) เข้าใจคุณลักษณะในการทำงานของผู้ตาม และ เลือกใช้วิธีการตามสถานการณ์และคุณลักษณะของผู้ตามได้อย่างเหมาะสมว่าควรใช้วิธีใด...จะได้รับผลงานตามเป้าหมายที่กำหนดไว้... แต่หากผู้ตามเป็นบัวเหล่าที่ 5 คือบัวในตมทับด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก และฝังระเบิดเวลาไว้ ???? แล้วล่ะก้อ เป็นเรื่องที่“หัวหน้า” และ HR ต้องหาสาเหตุและแนวทางบริหารจัดการเพราะกลุ่มคนลักษณะนี้จะเป็นภาระและปัญหาขององค์การในอนาคตได้+++++
●︿● Situational Leadership is NOT something you do TO people, it’s something you do WITH people.” ●︿●
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น