การขอสิทธิประโยชน์กรณีชราภาพ
เมื่อพุธที่แล้ว วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2559 ไปติดต่อสำนักประกันสังคม มีนบุรี แถวบ้าน เพื่อขอรับสิทธิประโยชน์กรณีชราภาพ ตามหลักเกณฑ์ คือ ต้องมีอายุ 55 ปีบริบูรณ์ และความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง (หรือสิ้นสุดความเป็นมนุษย์เงินเดือน) ซึ่งเราอายุ 56 ปี และตกงานแล้ว...ที่เลือกไปทำเรื่องในวันที่ 16 เนื่องจากปกติการนำส่งเงินสมทบหรือธุรกรรมต่าง ๆ กับประกันสังคมมักจะตัดในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป เราลาออกสิ้นเดือนมกราคม 2559 ดังนั้น จึงไปติดต่อในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2559 ควรจัดเตรียมเอกสารที่จะไปดำเนินการให้เรียบร้อยตามที่ระบุใน http://www.sso.go.th/wpr/category.j... ดังนี้
* แบบ สปส. 2-01 download จาก http://www.sso.go.th/wpr/category.jsp?cat=811- กรอกรายละเอียดให้ครบถ้วน
* สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
* สำเนาสมุดเงินฝากธนาคารหน้าแรก ซึ่งมีชื่อและเลขที่บัญชี (กรณีขอรับเงินทางธนาคาร) 11 ธนาคาร คือ กรุงไทย กรุงศรีอยุธยา กรุงเทพ ไทยพาณิชย์ กสิกรไทย ทหารไทย ธนชาต อิสลามแห่งประเทศไทย ซีไอเอ็มบีไทย ออมสิน ธ.ก.ส. (◡‿◡✿)
⊙︿⊙ วันที่ 17 กุมภาพันธ์ เราไปถึงประมาณ 10 โมง คิดว่าเช้า พอโผล่เข้าไปลมแทบจับ คนเต็มพรึ่ดเหมือนคอยดู concert พี่เบิร์ด เข้าแถวติดต่อประชาสัมพันธ์ เพื่อบอกว่าจะติดต่อเรื่องอะไร กดบัตรคิวให้รอ ดูเลข B775 นั่งคอย คนที่คอยก็ไอแข่งกันในห้องแอร์ สักพักก็เริ่มเลียนแบบไอตามกันเป็นจังหวะสลับกันในห้องแอร์เย็นเจี๊ยบ จนใกล้เที่ยง เจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการเริ่มลดช่องให้บริการ ดูลำดับคิว เพิ่งถึงเลข B700 วันนี้จะได้ทำไหมเนี่ย ตัดสินใจกลับ
{{{(>_<)}}} เช้าวันที่ 18 กุมภาพันธ์ เราไปถึงสำนักงานประกันสังคมตั้งแต่ 8.20น. ติดต่อประชาสัมพันธ์ รับบัตรคิว ครั้งนี้เจ้าหน้าที่ขอดูเอกสารก่อน และเข้าไปในระบบ บอกว่า บริษัทยังไม่ได้แจ้งออก จบข่าวต้องกลับบ้าน...และส่ง Line แจ้งแผนก HR สอบถาม ดูเหมือนเรารีบเร่งเกินไป? จริง ๆ ไม่ใช่หรอก เพราะช่วงเวลาการส่งเงินสมทบ มันคาบเกี่ยวระหว่างจะได้รับ “เงินก้อนหรือบำเหน็จ” หรือ “เงินบำนาญ” อยากได้เงินก้อน และขึ้นทะเบียนผู้ประกันตน ม.39 มากกว่ารับเงินรายเดือน...ได้ความรู้เพิ่มเติมว่า เมื่อนายจ้างแจ้งออกแล้ว คอยให้ระบบขึ้น Y ก่อนจึงไปดำเนินการขอสิทธิประโยชน์กรณีชราภาพได้
o(‧""‧)o เช้าวันที่ 22 กุมภาพันธ์ เราไปแต่เช้า ได้รับบัตรคิว B015 นั่งคอยสักพักเจ้าหน้าก็เรียก ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ในการคำนวณสรุปคือ เราได้รับเงินก้อนหรือบำเหน็จ และได้ความรู้เพิ่มเติมอีกแล้ว คือ การส่งเงินสมทบในปี 2558 ประกันสังคมมีผลประโยชน์คืนให้ผู้ประกันตนตามวงเงินบำเหน็จ 1-2% แต่ต้องคอยถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2559 มารับเงิน เราหันไปดูคิว ซึ่งคนกำลังทยอยมาเหมือนซื้อตั๋ว concert พี่เบิร์ด แล้วถามว่าต้องมาจัดคิวแบบนี้อีกใช่ไหม งั้นไม่เอาดีกว่า ขอรับเท่าที่คำนวณนี่แหละค่ะ เจ้าหน้าที่ดีมาก ถามว่า”่รับเช็คไปเลยดีไหมคะ” เราก็บอกโอนเข้าบัญชีก็ได้ค่ะ (ขี้เกียจนั่งคอยต่อไป) เจ้าหน้าที่ก็พยายามคะยั้นคะยอให้รับเช็ค ตกลงรับก็รับ
«-(¯`v´¯)«-- เรา เดินไปนั่งคอยช่องการเงิน...นานมากๆ อยากไปขอยกเลิก ดูนาฬิกา 11 โมงแล้ว หิวน้ำ.. หิวข้าว.. อยากเข้าห้องน้ำ.. แต่ไม่กล้าลุก เพราะเจ้าหน้าที่การเงินเสียงเบามาก เราต้องเล่นเก้าอี้ดนตรี ค่อย ๆ ย้ายเก้าอี้เมื่อว่าง นั่งให้ตรงหน้าช่องเจ้าหน้าที่การเงินคนนี้เป๊ะเลย มองปาก ใช่ชื่อเราไหม
.★*... ...*★. ระหว่างนั่งคอย มีผู้หญิงแต่งตัวดีมากนั่งใกล้เรา ถามเราเบา ๆ ว่า มาติดต่อเรื่องอะไร เราก็บอกว่า ขอรับสิทธิกรณีชราภาพ เขาก็บอกว่าเขาก็เหมือนกัน เราก็ถามต่อว่า ได้รับบำเหน็จหรือบำนาญค่ะ เธอก็ตอบเรา ว่า ฟังเรื่องก่อนซิคะ จะเล่าเรื่องให้ฟัง ชักงง ก็ฟัง
●﹏● “...เธอเล่าว่ากรณีของเธอไม่เหมือนเรา เธอเป็นข้าราชการ แต่ใช้สิทธิตาม ม.40 ตอนสิ้นปี 2557 ที่รัฐฯบอกว่าจะสมทบให้เท่า สองเท่า สำหรับคนที่มีอายุ 55 ปี ขึ้นไป กรณีชราภาพ ...นึกออกแล้ว รัฐฯ จะให้นำเงินสมทบเข้ากองทุนออมแห่งชาติ จึงขอใช้สิทธิ วงเล็บ (5) ขอถอนคืน...เราได้ความรู้เพิ่มอีกแล้ว เธอเล่าว่า ได้ทำเรื่องขอเงินคืนตั้งแต่ 3 ธันวาคม 2558 ให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร แต่นานมาก เธอจึงโทรมาถามเจ้าหน้าที่ ปรากฎว่าเจ้าหน้าที่ทำเอกสารเธอหาย และให้เธอมารับเช็คโดยไม่ต้องทำบัตรคิว เธอจึงคิดว่าไม่นาน แค่มารับเช็ค..แต่ตั้งแต่เช้าไม่ได้กินข้าว กินน้ำ หิวมาก มันไม่ใช่ความผิดของประชาชนใช่ไหม? และนี่มันก็เงินของเรา ใช่ไหม? ...” เราบอกเธอว่าอีกสักครู่คงเสร็จ เพราะเห็นเจ้าหน้าที่การเงินนำเช็ค 2 ฉบับไปให้หัวหน้าในห้อง อยากให้เธอรู้สึกดีขึ้น และเจ้าหน้าที่ออกเช็คแล้วจริง ๆ เราคงเป็นคู่สนทนาที่แย่มาก เธอจึงหันไปคุยเรื่องเดิมนี่แหละกับผู้หญิงด้านซ้ายมือของเธอ ผู้หญิงคนนั้นก็เม้าท์มอย(ขอใช้ศัพท์ลูกให้เห็นภาพนะ) ร่วมด้วย ทั้ง ๆ เจ้าหน้าที่การเงินนั่งในช่องตรงหน้านั่นแหละ
(◕〝◕) เราเพิ่งถึงบางอ้อ เข้าใจแล้ว...ทำไมเจ้าหน้าที่คะยั้นคะยอให้เรารับเช็ควันนี้ อย่าโอนเข้าบัญชีธนาคารเลย คุณป้ารับเช็ควันนี้เถอะ ถ้าหายคงยุ่งอีกเหมือนกัน เรานั่งดูเจ้าหน้าที่สำนักประกันสังคมทำงานแล้วก็อยากจะเห็นใจนะ ที่ต้องตอบปัญหาทุกเรื่องสำหรับคนที่มาขอรับสิทธิประโยชน์ 7 กรณี หลากหลายปัญหา กว่าจะจบแต่ละกรณี คุยกันนานมาก |^_^| แต่ผู้ประกันตนต้องมานั่งแช่แป้งนานมากๆๆๆ ก็น่าเห็นใจ(เห็นใจตัวเองด้วยแหละ) มันน่าจะมีการปรับวิธีการทำงาน การสื่อสารซึ่งปรับเยอะมากเห็นจาก website แต่ในรายละเอียดปลีกย่อยที่เป็นปัญหาเกิดจากหน้างาน น่าจะรวบรวมเป็น Tip เพื่อผู้ประกันตนอ่านให้เข้าใจ ก่อนมาติดต่อ น่าจะลดแรงกระแทกจากอารมณ์ผู้ประกันตนที่มาขอรับสิทธิ และ เจ้าหน้าที่ front ที่ต้องรับเรื่องมากมายได้บ้าง
●０● สักพักเธอก็รับ เช็ค แวะมาลาเราและถามว่าธนาคารกรุงไทย มีนบุรีอยู่ตรงไหน คงจะแวะไปแลกเช็ค จากนั้นก็ถึงคิวเรารับเช็ค เป็นอันว่าเสร็จสิ้นการดำเนินการขอรับสิทธิประโยชน์กรณีชราภาพ ●０●
(◕‿◕✿) สรุปขั้นตอนอีกครั้งนะ ต้องอายุครบ 55 ปี บริบูรณ์ สิ้นสุดเป็นผู้ประกันตน (แน่ใจว่าบริษัทแจ้งออกจากระบบแล้วก่อนด้วย) เตรียมเอกสาร คือ 1) แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพ (สปส. 2-01) 2) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และขอรับเช็คในวันที่ไปดำเนินการน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด
.★* *★ . ที่สำคัญมากๆๆ ดูแลสังขารให้พร้อม คือ กินข้าว ติดน้ำดื่มขวดเล็ก ๆ และจัดการทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย ก่อนมาดำเนินการ และถ้ามีหูฟังเตรียมเพลงบรรเลงหรือที่ชอบไปด้วย ก็น่าจะเป็นการคอยที่คุ้มค่า (◡‿◡✿)
ﾟ'ﾟ･✿.｡.:* *.:｡✿*ﾟ'ﾟ･✿.｡.:* *.:｡✿*ﾟ¨ﾟ✎･ ✿.｡.:* *.:｡✿*ﾟ¨ﾟ✎
พี่ตุ้ม (พรทิพา สมประสงค์) 26-02-59
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น