วันศุกร์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ให้ออก...ลาออก...ไม่อยากออกแล้ว????




การสรรหาคนที่คิดว่า ”ใช่” มาทำงาน ก็ว่ายากแล้ว พอได้คนมาทำงานก็ยากยิ่งกว่าที่จะบริหารให้ทำงานตามเป้าหมาย ไม่ว่าจะสาเหตุเพราะ “ตัวของพนักงานเอง” หรือ “ระบบงานและสิ่งแวดล้อมการทำงาน” ที่ทำให้พนักงาน “ทนอยู่” หรือ “อยู่ทน” และ/หรือจบด้วยการ “บริษัทให้ออก” หรือ “พนักงานลาออกเอง”

“บริษัทให้ออก” หรือ “พนักงานลาออกเอง”  กฎหมายแรงงานไม่ได้กำหนดรูปแบบไว้ชัดเจนว่าต้องแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรหรือต้องมี Format หนังสือลาออกอย่างไร... ⌐■- แต่ กฎหมายจะดูที่ “เจตนา” เป็นหลัก ⌐■-
ใน พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน มาตรา 17 ….ในกรณีสัญญาจ้างไม่มีกำหนดระยะเวลา นายจ้างหรือลูกจ้างอาจบอกเลิกสัญญาโดยบอกกล่าวล่วงหน้าเป็นหนังสือให้อีกฝ่ายหนึ่งทราบ ในเมื่อถึงหรือก่อนจะถึงกำหนดจ่ายค่าจ้างคราวหนึ่งคราวใด เพื่อให้เป็นผลเลิกสัญญากันเมื่อถึงกำหนดจ่ายค่าจ้างคราวถัดไปข้างหน้าก็ได้ ไม่จำเป็นต้องบอกกล่าวล่วงหน้าเกิน 3 เดือน และกำหนดเงื่อนไข/วงเงินการจ่ายเงินชดเชย กรณี “บริษัทให้ออก” หรือ “เลิกจ้าง ตามมาตรา 118 และ มาตรา 119 ของ พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน ซึ่งก็ชัดเจนเพียงพอที่จะยุติความสัมพันธ์ระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง ทั้ง “ให้ออก” หรือ “ลาออก” แต่ในทางปฏิบัติซึ่งเคยพบเห็นในการทำงานที่ผ่านมา มี “ปัญหา” และ เป็นประเด็นทางคดีความได้ด้วยเช่นกัน

uพนักงานแจ้งลาออก...แต่บริษัทไม่อนุมัติการลาออก??
สำหรับ “ลูกน้องในฝัน” หัวหน้าเสียดายไม่อยากให้พนักงานลาออก มักจะประวิงเวลาไม่อนุมัติการลาออก ทำได้ไหม??? เมื่อถึงกำหนดพนักงานไม่มาทำงานแล้วเพราะถือว่าสัญญาสิ้นสุดตามเจตนาการลาออกแล้ว การที่บริษัทไม่อนุมัติให้ลาออกไม่มีผลแต่อย่างใด และบริษัทจะถือว่าพนักงานละทิ้งหน้าที่ไม่ได้

แต่ถ้าถึงกำหนดที่พนักงานแจ้งว่าจะลาออก หัวหน้ายังไม่ได้อนุมัติการลาออก พนักงานก็มาทำงานตามปกติ บริษัทก็จ่ายเงินเดือน/ค่าจ้างตามปกติ...เท่ากับสัญญาจ้างยังไม่สิ้นสุด และ เป็นการยกเลิก “การลาออก” โดยปริยาย
...แต่ต่อมา หัวหน้าเปลี่ยนใจ จะอนุมัติการลาออกใหม่ กรณีนี้ถือว่า บริษัทเป็นฝ่ายบอกเลิกสัญญา หรือ “เลิกจ้าง”ถ้าเลิกจ้างพนักงานโดยไม่มีความผิด ต้องจ่ายค่าชดเชยให้แก่พนักงานตาม มาตรา 118 เพราะการบอกเลิกสัญญาของพนักงานได้ถูกยกเลิกไปก่อนหน้านี้แล้ว

vพนักงานแจ้งลาออก...แต่บริษัทอนุมัติผลก่อนเวลาที่พนักงานแจ้ง??
 “การลาออก” เป็นการแสดงเจตนาฝ่ายเดียวของลูกจ้างเพื่อให้นายจ้างรับทราบการแสดงเจตนาในการลาออกของลูกจ้างตามข้อกำหนดหรือระเบียบของบริษัทเท่านั้น ...นายจ้างจะอนุมัติและให้มีผลทันทีก่อนวันที่ลูกจ้างกำหนดไม่ได้...เพราะทำให้ลูกจ้างเสียหาย ไม่ได้รับค่าจ้าง นายจ้างต้องชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ลูกจ้างโดยจ่ายค่าจ้างนับจากวันที่ให้ลูกจ้างออกจนถึงวันที่ลูกจ้างกำหนดให้มีผลลาออก

wพนักงานแจ้งลาออก...แต่เปลี่ยนใจไม่ลาออก??
 หลักคือ ดูที่ “เจตนา” พนักงานแสดงเจตนาว่าจะลาออก จะมีผลตั้งแต่วันที่บริษัท/นายจ้างรับทราบการลาออกแล้ว เมื่อพนักงานเปลี่ยนใจไม่ลาออกภายหลัง ไม่สามารถล้างหรือถอนได้ แม้ว่าจะขอถอนการลาออกก่อนจะถึงกำหนดไว้ก็ตาม หากนายจ้างรับทราบและให้การลาออกนั้นมีผล สัญญาจ้างก็สิ้นสุดเมื่อถึงกำหนดทันที... เว้นแต่บริษัทไม่ถือผลการลาออกนั้น
เพิ่มอีกนิด
 ข้อv ป็นประสบการณ์ของตัวเอง ชนะคดี ข้อ wบริษัทที่เคยทำงานด้วย ชนะคดีพนักงานฟ้อง
(︶ ̄) ไม่อยากให้เกิดประเด็นทั้ง "พนักงาน" และ "บริษัท" ทุกปัญหาเปิดใจคุยกันเพื่อปรับแก้ไขการทำงานร่วมกัน...แต่ถ้า ปรับไม่ได้ก็ "จากกันด้วยดี" ด้วยใจสะอาดเป็นธรรม ไม่หวังประโยชน์จากอีกฝ่ายหรือกลั่นแกล้งแบบอธรรม พึงระลึก ทุกคนเป็น "พนักงาน" เหมือนกันหมด ต่างเพียงหัวโขนบ่งบอกยศฐาบรรดาศักดิ์ เท่านั้นเอง (︶ ̄
·.¸¸·´¯`·.¸¸.ஐ ...¤¸¸.·´¯`·.¸·...·.¸¸·´¯`·.¸¸.ஐ ...¤¸¸.
ครูพี่ตุ้ม 10-12-59
#HROD #Consultant

วันอังคารที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ระบบ HR??? เพื่อ...เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์-ขอระบบคุณภาพ




⌐■- อาทิตย์ที่ผ่านมา...โชคดีมีลูกค้าติดต่อสอบถามการจัดทำ "ระบบ HR" เพื่อขอผ่าน ISO และ จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET หรือ กลต.) เนื่องจากมีข้อกำหนดให้บริษัทต้องมีการจัดทำ "ระบบ HR" ...ถ้าต้องจัดทำกันเต็มระบบ เนื้อหางานจะประมาณการตามภาพ Human Resources Management System ข้างบน คงต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะขอผ่านระบบคุณภาพ หรือเข้าตลาดหลักทรัพย์ตามที่บริษัทตั้งเป้าหมายกันไว้

+++ในความเป็นจริง ทุกองค์การไม่ว่าจะเป็นภาครัฐหรือเอกชนทั้งที่ไม่แสวงหากำไรและเป็นธุรกิจ จำเป็นต้องมีระบบการบริหารทรัพยากรบุคคล หรือ HR เพื่อดูแล "คน" ให้มีการพัฒนาศักยภาพ มีใจมุ่งมั่นในการสร้างผลงานที่ดีให้องค์การได้เติบโตก้าวหน้า +++

(⌐■_) หลายองค์การมีการกำหนดระบบ HR เชิงนโยบายเป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจน...แต่ ในทางปฏิบัติกลับเป็นอีกเรื่อง บางบริษัทมุ่งเน้นยอดขาย กำไร และพยายามบีบพนักงานโดยลดต้นทุนในการทำงานลง โดยไม่สนใจว่าจะส่งผลกระทบต่อการทำงานในภาพรวมอย่างไร..มุ่งแต่เพียงกำไร และมียอดขายสูงที่สุดก็พอแล้ว...

หากคิดด้วยเหตุและผลแล้ว...ผลงานไม่ได้มาจากการบริหารของผู้บริหาร แต่มาจากผลงานของพนักงานทุกคนทุกระดับขององค์การ ดังนั้น พนักงานจะต้องเข้าใจเป้าหมายใหญ่ร่วมกัน และเป้าหมายในความรับผิดชอบของตน และต้องมีความรู้ ทักษะ ความสามารถ หรือ ภาษาฮิต คือ Competency ในการสร้างผลงานตามที่ผู้บริหารต้องการ..และบุคลากรของบริษัทจะเป็นแบบนั้นได้ "ระบบ HR" นี่แหละคือตัวช่วย

“ระบบ HR” อะไรบ้างที่บริษัทต้องมีในการขอผ่านระบบคุณภาพ และ จดทะเบียน กลต. หลักๆ จากประสบการณ์การทำงาน คือ ฐานรากภาพ Human Resources Management System คือ 
¤  โครงสร้างองค์กร (Organizational Structure) ที่มีการกำหนดสายการบังคับบัญชาชัดเจน เป็นแผนภูมิองค์การ (Organization Chart) ระบุภารหน้าที่ คุณสมบัติของตำแหน่งงานเป็นรูปธรรม หรือ ใบกำหนดหน้าที่งาน (JD: Job Description) ที่ชัดเจน ดูดี มีชาติสกุล และถูกต้องตามหลักสากล (ระบุใน ISO9001 version ใหม่ ข้อ 5.3) ดูรายละเอียด https://sites.google.com/site/twotoneduosstudy/bthkhwam/sss ...แต่มักพบว่าไม่ตรงกับความเป็นจริงที่บริหารกันอยู่....
¤  ระบบการพัฒนาพัฒนาพนักงาน ตามความรู้ ทักษะที่จำเป็นตามตำแหน่งงาน (ระบุใน ISO9001 versionใหม่ ข้อ 7.2)    ...มักจะทำขึ้นเพื่อใช้ประกอบการตรวจสอบ ให้แลดูดี และเก็บข้อมูลไว้ตรวจสอบตามข้อกำหนดของระบบ... แต่ไม่เคยนำมาปรับใช้จริงกับการทำงานของบริษัทเลย
สำหรับข้อกำหนดตลาดหลักทรัพย์ "ระบบ HR" อยู่ในหมวดการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Corporate Governance) แนวปฏิบัติที่ดีเกี่ยวกับการบริหารทรัพยากรบุคคล ดูรายละเอียด
 http://www.set.or.th/th/products/listing2/set_business_p1.html

  จากประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมา "ระบบ HR" ทำขึ้นมาเพื่อให้มีการตรวจสอบ หรือ Audit ตามข้อกำหนดของระบบคุณภาพหรือตลาดหลักทรัพย์ เพียงอย่างเดียว บ่อยครั้งที่ลูกค้าบอกว่า “ไม่ต้องทำให้ยุ่งยาก แค่ให้มี และ ตรวจสอบผ่านก็พอแล้ว...และหลายบริษัทไม่ได้นำ "ระบบ HR" ที่ทำมาใช้จริงหรือต่อยอดให้ "ระบบ HR สมบูรณ์ ซึ่งน่าเสียดาย เพราะบริษัทต้องเสียเวลาและงบประมาณจัดทำเพื่อให้ผ่านระบบคุณภาพหรือเข้าตลาดหลักทรัพย์แล้ว...น่าจะทำกันอย่างจริงจังเพื่อประโยชน์ของ “คน” ปัจจัยสำคัญและมีคุณค่ายิ่ง นำมาซึ่งความสำเร็จ ความก้าวหน้า และความเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนขององค์การ

·(¯`°.•°•.* *·(¯`°.•°•.* *·(¯`°.•°•.* *

ครูพี่ตุ้ม 6-12-16
#HROD #Consultant

วันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ยิ่งกว่าซุปเปอร์แมน...More than Superman

ที่มา: https://www.youtube.com/watch?v=frmTFezxMX4&t=1s

Superman is my favorite hero

ซุปเปอร์แมนคือฮีโร่คนโปรดของฉัน
I believe that... Superman is a symbol for all the goodness in the world

ฉันเชื่อว่า...
ซุปเปอร์แมนคือสัญลักษณ์
ของความดีงามทั้งหมดบนโลก
The man who lives for others
ชายผู้มีชีวิตอยู่เพื่อผู้อื่น
The man who would go through hell for a little girl

ชายผู้ยอมเผชิญกับอันตรายเพื่อช่วยเด็กสาวคนหนึ่ง
But.. I never believed that there is a man as good as Superman
แต่..ฉันไม่เคยเชื่อหรอกว่า
จะมีคนที่ดีเหมือนซุปเปอร์แมน

Superman is just fantasy

ซุปเปอร์แมนมันก็แค่นิยาย

Until.. found this one man.  The man who is greater than Superman.  The man who truly lived for others


จนกระทั่ง..ฉันได้เจอกับ   ชายคนหนึ่ง ชายที่ยิ่งใหญ่ยิ่งกว่าซุปเปอร์แมน 
ชายที่ใช้ชีวิตของตนเพื่อคนอื่นอย่างแท้จริง
His heart beats for his people.  
 He doesn’t’ have any super powers
หัวใจของชายคนนั้นเต้นเพื่อคนของเขา 
ชายคนนั้นก็ไม่ได้มีพลังวิเศษอะไรเลย
And.. this man is King Bhumibol the Great
และ..ชายคนนั้นก็คือพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

Imagine..
you are the king.  Would you sacrifice your privileged life and leave the comfort zone for the sake of others?  For over 70   decades?

ลองจินตนาการดูสิ..
ถ้าคุณได้เป็นพระราชา 
คุณจะยอมละทิ้งชีวิตอันหรูหรา..ละทิ้งความสบาย
มาช่วยประชาชน? นานกว่า 70 ปี ไหม?

He worked so hard, just to make sure that his people have a better life.

พระองค์ทรงงานอย่างยากลำบากเพื่อความสุขของปวงประชา

No matter how hard the work was, he never gave up

ไม่ว่างานนั้นจะยากเย็นเพียงใดพระองค์ไม่เคยย่อท้อ

Even when he was sick or tired, Thai people came first

แม้ว่าจะทรงประชวรหรือทรงเหนื่อยยากเพียงใด ความสุขของประชาชนคนไทยจะมาก่อนเสมอ

He is the greatest man I have ever Known

พระองค์คือชายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่ฉันได้รู้จัก

I hope..
his life will teach you that a superhero isn’t a man with great powers, rather a man with great heart.

ฉันหวังว่า..
เรื่องราวนี้จะเป็นสิ่งที่ทำให้ทุกคนได้รู้ว่าซุปเปอร์ฮีโร่ไม่ใช่คนที่มีพลังวิเศษมากมายมหาศาล แต่เป็นคนที่มีหัวใจที่แสนวิเศษ

I may not come from the greatest country, but.. I am very proud to say I have live in the country with the greatest King.

'゚・..:* *.:*'゚・..:* *.:*¨
#HROD #Consultant

ฉันอาจจะไม่ได้มาจากประเทศที่ยิ่งใหญ่ที่สุด 
แต่..ฉันภูมิใจและพูดได้เต็มปากว่าฉันอยู่ในประเทศนี้กับพระราชาที่ยิ่งใหญ่ที่สุด



 ..:* *.:*¨ ..:*

วันอาทิตย์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

สถิตในหทัยราษฎร์...นาถนิรันดร์


(´._.`) จำได้...ตั้งแต่เล็กจนโต เราต้องดูข่าวพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่านช่วงเวลาข่าวทุกค่ำ รับรู้ว่าพระองค์ท่านเหนื่อยมาก สงสัยบ่อยครั้ง วันหนึ่งมี 24 ชั่วโมง ท่านพักตอนไหน ...และที่ชอบมากที่สุดคือพระราชดำรัสวันที่ 4 ธันวาคม ก่อนวันเฉลิมฯ ของทุกปี จะได้ความรู้สรุปเหตุการณ์บ้านเมือง แนวทางแก้ไข และจะได้ผลลัพธ์อะไร จากพระราชดำรัสนั่นแหละ และพรปีใหม่ พร้อม ส.ค.ส ที่พระองค์ท่านอวยพรประชาชนแต่ละปี ไม่ซ้ำ และงดงามในคำพูด ชัดเจน เข้าใจง่าย ...หากนำปฏิบัติจะเกิดประโยชน์และความเจริญรุ่งเรืองแก่ชีวิตยิ่ง

).ที่บ้านเราไม่ค่อยมีเงิน แม่จะนำหนังสือนิตยสารสกุลไทย ที่รับจากแม่ค้าไปส่งให้ลูกค้า มาให้ลูกๆ อ่านก่อนตอนเย็น... ต้องดูอย่างระมัดระวัง และรีบอ่าน เพราะต้องไปให้ลูกค้าในวันถัดไป...แม่จะลงทุนซื้อเฉพาะหน้าปกรูปพระองค์ท่าน พระราชินี และฟ้าหญิง และบรรจงตัดเก็บ ไม่เคยทิ้ง รวมทั้งหนังสือภาพเหตุการณ์สำคัญต่างๆ เช่น งานฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี เป็นต้น..แต่น่าเสียดายมากภาพและกระดาษก็เสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา เช่นเดียวกับนิตยสารที่มีคุณค่ายิ่ง  "นิตยสารสกุลไทย"

...จนถึงวันที่ 13 ตุลาคม 2559 เหตุการณ์ที่ไม่อยากรับรู้ ไม่อยากเห็น ไม่อยากให้เกิดขึ้นในช่วงที่เรามีชีวิตอยู่ ก็เกิดขึ้น เกินกว่าจะบรรยายความรู้สึกได้ ภาพของพสกนิกรชาวไทยที่ โรงพยาบาลศิริราช ช่วงเช้า ร่วมกันสวดมนต์ด้วยความหวังให้พระองค์ที่รักนับถือยิ่งหายจากพระประชวร กลายเป็นต้องรับฟังข่าวร้ายที่สุด ในวันเดียวกัน 

() ...เมื่อเช้าดูโทรทัศน์ ภาพยนต์เพลงสรรเสริญพระบารมีของ ท่านมุ้ย ทำให้นึกถึงในวัยเด็ก ร้อยเรียงได้งดงาม ทั้งยังได้มีโอกาสฟังพระดำรัสของพระองค์ท่าน ความรู้สึกรักเทิดทูนในหลวงของปวงชนชาวไทย เป็นภาพยนต์ที่ทรงคุณค่ายิ่ง ขออนุญาตนำมาเผยแพร่เพื่อแบ่งปันความรู้สึกดีๆ เก็บไว้ในความทรงจำ นิจนิรันดร์
..:* *.:*'゚・..:* *.:*¨ ..:* *.:*¨

พระราชดำรัส 
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร 
พระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี 
วันที่ 31 ธันวาคม 2519



ถวายคารวาลัย          ครรไลลา
พระเสด็จสู่ฟ้า              เสวยสวรรค์
สถิตในหทัยราษฎร์        นาถนิรันดร์
ประทับมิ่ง ประทับขวัญ   ประชาชน

ผองพสกนิกรชาวไทยน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณตราบนิจนิรันดร์

ที่มา : Thai PBS News เผยแพร่เมื่อ 13 พ.ย. 2016 ภาพยนต์เพลงสรรเสริญพระบารมี โดย หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล
#HROD #Consultant


วันอังคารที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

พระราชาสถิต...ในดวงใจนิรันดร์

() เมื่อวานได้มีโอกาสฟังเพลง " รักในดวงใจนิรันดร์" ของ CU Band ...ต้องขอชื่นชมผู้ประพันธ์ คุณชนกพร พัวพัฒนกุล นักดนตรี CU Band ปี 2541 - 2545  ที่ร้อยกรองรวมเพลงพระราชนิพนธ์ 28 เพลงได้อย่างไพเราะ ซาบซึ้งใจ  และ คุณอัจฉริยา ดุลยไพบูลย์ CU Band 2542 - 2546 ที่เรียบเรียงทำนอง และขับร้องได้ไพเราะเพราะพริ้ง จับใจยิ่งนัก... ความหมายของเพลง " รักในดวงใจนิรันดร์" แทนความรู้สึกใจสลาย อาลัยรัก พระราชาสถิต...ในดวงใจพสกนิกรชาวไทย...นิรันดร์ )
๐๐๐ แว่ว เสียงราษฎร์ร่ำไห้ใน ยามค่ำ

       สายฝน พรำ แผ่นดินของเรา ผอง
       เมื่อ อาทิตย์อับแสง ลาน้ำตานอง
       สายลม ต้อง แสงเทียน ดับลับชั่วกาล
       ศุกร์สัญลักษณ์ บังคมลา พระมหามงคล
       โอ้ ค่ำแล้ว ในกมลสิ้น คำหวาน
       คืน ไร้เดือน ลมหนาว นั้นยาวนาน
       กว่าจะผ่านห้วงเวลา ชะตาชีวิต
       เมื่อโสมส่อง เตือนใจ ให้ยั้งอยู่
       หักอาลัย ยิ้มสู้ ประกอบกิจ
       เพื่อ ความฝันอันสูงสุด จักอุทิศ
       หวังตามรอยบาทบพิตรด้วยใจภักดิ์
       ผ่าน ยามเย็น เห็น แสงเดือน ที่เคลื่อนคล้อย
       ราสู้ คอยอดทนให้ชนประจักษ์
       ทำความดีด้วย ดวงใจกับความรัก
       เพื่อทรงพัก ไกลกังวล ที่บนฟ้า
       เจ้า แก้วตาขวัญใจ อย่าไห้หวน
       จงช่วยชวนกัน ฝัน ถึงวันหน้า
       ใกล้รุ่ง แล้วประเทศไทยในน้ำตา
       พระราชาสถิต ในดวงใจนิรันดร์
       ๐๐๐รักนี้จะอยู่ในดวงใจนิรันดร์ ๐๐๐


'゚・..:* *.:*'゚・..:* *.:*¨ ..:* *.:
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระราชปรีชาญาณในเรื่องของดนตรี ทรงพระราชนิพนธ์ทำนองเพลงตั้งแต่ยังทรงเป็นสมเด็จพระอนุชาธิราช รวมทั้งสิ้น 49 เพลง
เพลงแรก คือ "แสงเทียน" หรือ Candleligh Blues ในเดือนเมษายน 2489 และเพลงสุดท้าย คือ เพลง "เมนูไข่" เนื้อร้องโดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในปี พ.ศ. 2538 
เพลงที่ทรงพระราชนิพนธ์ทำนอง และคำร้องภาษาอังกฤษด้วยพระองค์เอง มี 5 เพลง คือ "Echo", "Still on My Mind", "Old-Fashioned Melody", "No Moon" และ "Dream Island
เพลงที่ทรงพระราชนิพนธ์ทำนองขึ้นภายหลังใส่ในคำร้องที่มีผู้ประพันธ์ไว้แล้ว คือ ความฝันอันสูงสุด เราสู้ และ รัก  ผู้ที่โปรดเกล้าฯ ให้แต่งคำร้องประกอบเพลงพระราชนิพนธ์มีหลายท่าน ได้แก่ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ จักรพันธุ์ศาสตราจารย์ ท่านผู้หญิงนพคุณ ทองใหญ่ ณ อยุธยาศาสตราจารย์ ดร.ประเสริฐ ณ นครท่านผู้หญิงสมโรจน์ สวัสดิกุล ณ อยุธยานายจำนงราชกิจ (จรัล บุณยรัตพันธุ์)ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ม.ล.ประพันธ์สนิทวงศ์ และท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาค เป็นต้น
ในยุคแรก หลังจากที่เพลงพระราชนิพนธ์มีทำนองและคำร้องสมบูรณ์แล้ว จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ครูเอื้อ สุนทรสนาน นำไปบรรเลงในวงดนตรีกรมโฆษณาการหรือวงสุนทราภรณ์ เพื่อให้แพร่หลายทั่วไป ปรากฏว่าหลายเพลงกลายเป็นเพลงยอดนิยมทั้งในหมู่ชาวไทยและชาวต่างประเทศ
    ข้อมูล: Wikipedia.org

'゚・..:* *.:*'゚・..:* *.:*¨ ..:* *.:

#CU Band #พระมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทย

วันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2559

วันสัมภาษณ์งาน...วันทำงาน...วันลาออก


(╯︵╰,) 13 ตุลาคม 2559 ใจสลาย เป็นความสูญเสียใหญ่หลวงเกินกว่าควบคุมสติและอารมณ์ให้ทำงานได้ตามปกติ ใช้เวลานั่งอยู่หน้าจอ ดู clip-ข่าว ที่ประชาชนร่วมใจใส่เสื้อสีชมพู สวดมนต์ด้วยดวงใจเปี่ยมล้น เคารพรัก เทิดทูน "พ่อหลวง"  แต่หกโมงกว่า..มีแถลงการณ์สำนักพระราชวัง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสวรรคต เหมือนสายฟ้าฟาด ทุกๆ สีหน้าช็อค ร้องไห้ดั่งใจสลาย...รู้ดีว่าดูกี่ครั้งก็ต้องร้องไห้ ก็วนดูทวนไปทวนมา หา clip พระราชกรณียกิจ  ภาพยนต์เฉลิมพระเกียรติ พระราชประวัติของพระองค์ท่าน download เก็บไว้ คงจะหาใครเสมอเหมือนพระองค์ท่าน พระผู้เป็นต้นแบบการให้ที่ยิ่งใหญ่ ไม่ได้อีกแล้วในโลกนี้ (╥﹏╥)

ที่ชอบมาก clip หนึ่ง คือ ภาพยนต์เฉลิมพระเกียรติ โดย เครือเจริญโภคภัณฑ์และบริษัทในเครือ คือ  ใคร...ยอมลำบากเพื่อคนอื่น  ใกล้กับชีวิตของคนส่วนใหญ่ที่เป็น "มนุษย์เงินเดือน" ทั้ง "ข้าราชการ" และ "ลูกจ้างเอกชน" และ ความเป็นคน HR มานานกว่า 20 ปี ได้พบ..ได้เจอน้องๆ ทั้งเพิ่งเรียนจบไม่มีประสบการณ์ และ มีประสบการณ์การทำงาน

        ...ในวันสัมภาษณ์งาน ประโยคคลาสิคที่ได้ยิน คือ อยากได้โอกาส เพื่อทำงานตามความสามารถ อะไรก็ได้ ทำได้ทุกอย่าง ไม่มีเงื่อนไข...แต่เมื่อวันเวลาในชีวิตการทำงานผ่านไป

        แต่ ...ในวันสัมภาษณ์ลาออก (จากใจไม่อยากให้ลาออก...แต่ก็ไม่สามารถรั้งหรือเปลี่ยนความคิดได้) ฟังน้องๆ บอกความอัดอั้นตันใจ เข้าใจดีว่ามีตัวแปรกระทบความรู้สึกในการทำงานเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นสภาพแวดล้อมการทำงาน ความสัมพันธ์หัวหน้างาน ระบบการทำงาน a)  


 (⌐■_) ...ประเด็นสำคัญในชีวิตการทำงาน ของ"มนุษย์เงินเดือน" ที่ควรตระหนัก คือ ..ยากที่่จะให้ระบบใหญ่ หรือ องค์การ หรือ หน่วยงานรัฐปรับเปลี่ยนเพื่อเรา...

ดังนั้น ...สำคัญยิ่งที่ตัวของเรา..."ความคิดและการปฏิบัติตนของเรา"... จะอยู่อย่างไร และจะทำงานอย่างไรให้มีคุณค่าและภูมิใจในตนเอง เพื่อให้ "อยู่ทน" ไม่ใช่ "ทนอยู่" 

'゚・..:* *.:*'゚・..:* *.:*¨ ..:* *.:*

ครูพี่ตุ้ม (30-10-2559)
#HROD #Consultant