วันอาทิตย์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2560

เส้นทางหินศักดิ์สิทธิ์..ความเชื่อ ความหวัง และ วัฒนธรรมองค์กร

เรื่องที่จะเล่าเป็นเรื่องจริง...เกิดในเขตมีนบุรี เมื่อประมาณ 6-7 เดือนที่ผ่านมาปีนี้ (2560)

เราเห็นรถโม่ทำปูนซิเมนต์หกบนพื้นถนน บริเวณแยกมีนบุรี และ มีผู้หวังดีตักไปกองไว้ใต้สะพานข้ามถนน เมื่อกองปูนแห้งเป็นทรงภูเขาเล็กๆ เราขับรถผ่านไป-มา หลายสัปดาห์ ไม่เห็นมีหน่วยงานหรือใครกระเทาะกองหินออกไป วางเด่นเป็นสง่าอยู่ตรงนั้น และกลายเป็นที่ทิ้งพวงมาลัยแห้งที่แม่ค้าขายช่วงติดไฟแดงนำมาห้อยทิ้งที่กองซิเมนต์นี้ เราคิดเล่นๆ ถ้ามีใครอุตริหาผ้า 7 สีมาผูก และวางกระถางธูปเสียหน่อย คงจะขลังน่าดู

ไม่น่าเชื่อ...
ในสัปดาห์ถัดไป เราเพิ่งสังเกตเห็นว่ามีขวดน้ำแดงมาวางรอบหิน และมีธูปปักไว้ด้วย น่าจะมีคนมาขอพรและสมหวัง

อาทิตย์ถัดมาเราต้องผ่านเส้นทางนี้อีก คราวนี้เห็นมีผ้า 7 สี มาพันรอบหิน และมีหัวหมูต้ม (ตอนแรกนึกว่าตาฝาด) ใส่ถุงมาวางไว้ และจำนวนขวดน้ำแดงเพิ่มมากขึ้น ปัจจุบัน ยังคงมีพวงมาลัย ดอกดาวเรือง น้ำแดง น้ำ นม วางรอบหินก้อนนี้
จากปูนซิเมนต์เหลว ผูกกับความเชื่อที่แฝงด้วยความหวัง และความสมหวัง หินก้อนนี้น่าจะเติบโตเป็นหินศักดิ์สิทธิ์เต็มตัวแล้ว

เมื่อเดือนที่แล้ว (พฤศจิกายน 2560)  เราเพิ่งสังเกตว่าหินก้อนนี้เล็กลง (เข้าใจเอง) ว่า คงมีใครสะกัดเอาไปเป็นวัตถุมงคล? ...จากความเชื่อ-ความหวัง ปากต่อปากสื่อสารกัน ถึงความสมหวังที่ได้รับ ..จะกลายเป็น ความศรัทธา??

 ณ วันนี้ คิดว่าค่อนข้างยาก ที่ใครจะไปกระเทาะหินกองนี้ทิ้ง เพราะได้กลายเป็น หินศักดิ์สิทธ์ที่มีความเชื่อ ความหวังของกลุ่มคนที่ศรัทธา แม้ไม่รู้ (ไม่สนใจ) ที่มาของหินศักดิ์สิทธิ์กองนี้

สิ่งที่น่าคิด จากเส้นทางหินศักดิ์สิทธิ์ 
หากผู้บริหารสามารถสร้าง ความเชื่อ ความหวัง ความศรัทธา ให้กับสมาชิก ตามค่านิยมที่ดีที่เป็นแนวทางขององค์การได้แบบเดียวกับความกองหินนี้ จะส่งผลต่อ
พฤติกรรมการทำงาน การอยู่ร่วมกันของสมาชิกที่เป็นตัวแปรสำคัญในการสร้างความสำเร็จหรือความล้มเหลวขององค์การ ซึ่งเราทราบกันดีอยู่แล้วว่า ...การสร้างและพัฒนาวัฒนธรรมองค์กรจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องทำเพื่อให้องค์การเติบโตอย่างยั่งยืนและแข็งแกร่ง เพราะ

ความเชื่อ: เป็นขั้นตอนแรกที่จะทำให้ "คน" เข้ามารวมกัน มีแนวคิดเช่นเดียวกัน และ "พร้อม" จะปฏิบัติไปในทิศทางเดียวกัน หรือ สื่อสารให้เข้าใจในทางเดียวกัน

ความศรัทธา: เป็นผลจากการพิสูจน์รู้ด้วยตนเองว่าแนวคิด หรือ หลักการนั้นๆ ส่งผลต่อตัวบุคคลนั้นๆ จากประสบการณ์จริงที่เริ่มจากการ รับรู้ การเชื่อ เข้าใจ ปฏิบัติจริง เห็นผลจริง ได้รับผลกระทบจริง ก่อให้เกิด..."ศรัทธา"

เชื่อว่า ...ทุกองค์การทั้งภาครัฐและเอกชนต้องการให้ "คนขององค์การ" เข้าใจเป้าหมายขององค์การในทิศทางเดียวกัน และคิด ปฏิบัติเพื่อให้ได้ผลลัพธ์บรรลุเป้าหมายขององค์การ

ดังนั้น องค์การควรเริ่มจากการ "สร้างความเชื่อ" ที่่สื่อสารสร้างความเข้าใจให้กับ "คนขององค์การ" ตั้งแต่ก้าวแรกของการเป็นสมาชิกขององค์การ คือ "การปฐมนิเทศ"

การกำหนด กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ และการปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กร การตอบรับ(การสำรวจความคิดเห็น)

ของพนักงานเป็นเพียงการรับฟัง ซึ่งอาจจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ได้

จากความเชื่อขององค์การ ...ต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่องไปสู่การปฏิบัติที่เป็นตัวอย่างให้เป็นรูปธรรม และจะต้องเป็นความเชื่อที่ยั่งยืน พัฒนาต่อเนื่องจนถึง "สร้างความศรัทธา" เพื่อสร้างโอกาสการเรียนรู้ด้วยตนเองให้กับพนักงาน เพื่อให้เข้าใจว่าพฤติกรรมการประพฤติปฏิบัติจะส่งผลดีต่อตนเองและองค์การอย่างไร และ/หรือปรับเปลี่ยนให้องค์การเข้มแข็งได้อย่างไร
·
(¯`°.•°•.* * .•°•.°´¯)*¤°·(¯`°.•°•.* * .•°•.°´¯)*¤°

ครูพี่ตุ้ม 11-12-2560
#วัฒนธรรมองค์การ #ความเชื่อ #ค่านิยม



    

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น